ใครที่อยู่ในสภาวะหมดไฟ ขอให้ทุกคนคิดเสียว่านี่คือ “โอกาสในการเปลี่ยนแปลง”ก็เหมือนกับการทำแอดโฆษณา หลายคนไม่ประสบความสำเร็จ แอดพังบ้าง แพงบ้าง ไม่ผ่านบ้าง รู้สึกท้อถอย หมดไฟ วันนี้จินมีเคสธุรกิจที่น่าสนใจมาแชร์ให้ทุกคนได้อ่านพร้อมแนะนำวิธีแก้ปัญหานี้กันค่ะ
มีคนหนึ่งทำอาชีพนำสินค้าเข้าจากจีน ประสบปัญหาปิดประเทศช่วงไวรัสระบาด ไม่สามารถส่งสินค้าให้ลูกค้าได้เหมือนเดิม เขาใช้เวลา 1 เดือนเพื่อนั่งวิเคราะห์ตัวเองว่าตัวเขามีอะไร ในตอนนั้นเขามีเพจ แอดมิน รู้วิธีการขาย การยิงแอด รู้วิธีแพ็ค มีกลุ่มลูกค้าเก่า จากนั้นเมื่อเขารู้ตัวเองแล้วสิ่งที่เขาทำคือตามหาโรงงานในไทย ออเดอร์ในไทยมาตั้งราคาใหม่ ทำแอดใหม่ รื้อใหม่ทั้งหมด ภายใน 1-2 เดือนแรกจาก “ยอดที่เสียหายหลักล้าน กลับมาเพิ่มขึ้น 2-3 เท่าจากเดิม” แต่มันก็ไม่ได้ง่าย เพราะกว่าเขาจะมาถึงจุดนี้ก็ผ่านความเหนื่อย อดหลับอดนอนปรับแอดใหม่ เรียนรู้ใหม่ เริ่มต้นใหม่หมดทุกอย่าง สิ่งที่เราต้องมีก็คือ
1. ยอมรับการเปลี่ยนแปลงให้ได้เปิดใจ ท้อได้ แต่อย่าเพิ่งหมดหวัง ค่อยๆ ปรับ ค่อยๆ เปลี่ยนอย่างมีสติ ยกตัวอย่างเช่น ใครที่เคยยิงแอดแล้วไม่ได้กำไร ให้ลองถัวเฉลี่ยย้อนไป 7-14 วันแล้วยังไม่มีกำไร นั่นคือเราต้องเปลี่ยนแล้วอาจจะเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายหรือเปลี่ยนแอด แต่ที่แน่ๆ คือเราต้องทำอะไรสักอย่างหนึ่ง จะอยู่จุดเดิมไม่ได้
2. วิเคราะห์สิ่งที่ตัวเองมีอย่าวิตกกังวลหรือเปรียบเทียบตัวเราเองกับคนอื่น ให้เราเริ่มวิเคราะห์ที่ตัวเองก่อนว่าเรามีสินค้า กลุ่มเป้าหมายอะไรบ้าง เทสต์อะไร ทำแอดไปแล้วกี่ตัว มีความสามารถหรือทักษะอะไรบ้าง เพราะสิ่งเดียวที่เราควบคุมได้คือตัวเรา รอบข้างจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเราไม่สามารถควบคุมได้
3.พัฒนาความรู้ทางการตลาดสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ “วิเคราะห์ความต้องการ” เพราะไม่ว่าเราจะขายอะไรสิ่งที่เราต้องดูเป็นอันดับแรกนั่นก็คือความต้องการของลูกค้า“ใครทำจริง ทำเยอะ ทำชัดเจน”คนนั้นจะประสบความสำเร็จก่อนและทักษะความสามารถที่ต้องพัฒนา (Skill set) ที่ต้องมีเลยก็คือ “การขายกับการตลาด”
4. ใช้เงินอย่างรอบคอบดูรายรับรายจ่ายของเราก่อนแล้ววิเคราะห์ว่าคุ้มค่าไหม ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราอยากจ้างลูกจ้างสักคนหนึ่งให้ดูว่าเราสามารถประหยัดเวลาได้กี่เท่า แล้วเราสามารถเอาเวลาตรงนั้นไปทำกำไรได้อย่างน้อย 2 เท่า 3 เท่าจากค่าจ้างหรือเปล่า
จากประสบการณ์ตรงของจิน มีอยู่ช่วงหนึ่งที่สินค้าเราดรอปก็เลยไปทำเสื้อ ทำถุง แต่สุดท้ายก็ไม่ตอบโจทย์ หรือบางแบรนด์พยายามลดราคาสินค้าจนติดราคาต้นทุนพอบวกค่าแอดลงไปก็ไม่เหลือกำไร เพราะฉะนั้นจินอยากให้ทุกคนใช้เงินอย่างรอบคอบ แล้วมั่นใจว่ารายจ่ายที่เราเสียไปจะคุ้มค่ากับผลลัพธ์ที่ได้จริงๆ
5. ใช้ความสามารถตัวเองก่อนใช้เงินสิ่งแรกที่เราต้องรู้คือ “แอดไม่ได้ปังเพราะยัดเงิน แต่ปังเพราะใส่ใจ” ยกตัวอย่างเช่น ไปจ้างคนมาจัดการแบรนด์แทน แต่สุดท้ายแล้วคนที่สามารถลงลึกรายละเอียดได้ดีจริงๆ ก็คือตัวเราเอง การไปจ้างใครควรจ้างมาเติมเต็มในส่วนที่เราไม่มีบางครั้งจุดที่มันบอด มันมืดสนิท นั่นอาจจะเป็นการเริ่มต้นใหม่ที่สวยงามก็ได้ อย่างเคสตัวอย่างที่ทำอาชีพนำเข้าสินค้าจากจีน สุดท้ายเขากลับบอกว่า “ขอบคุณวิกฤต ที่ทำให้เขาไม่อยู่นิ่งเฉย”หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และกำลังใจให้กับคนที่กำลังหมดไฟได้นะคะ
