อยากทำธุรกิจ? ต้องมีความรู้ขั้นพื้นฐานก่อน วันนี้จินจะพามารู้จักประเภทของธุรกิจอย่าง B2B และ B2C “B2B” หมายถึง “business to business,”” ในขณะที่“B2C” หมายถึง “business to consumer”

B2B (business to business)
ธุรกิจ B2B ขายสินค้าและบริการโดยตรงให้กับธุรกิจด้วยกันเอง หรือขายให้กับผู้มีอำนาจตัดสินใจในธุรกิจใดธุรกิจหนึ่ง ยกตัวอย่างเช่น วัตถุดิบหรือบริการที่ซื้อเพื่อไปพัฒนาองค์กรไม่ใช่การซื้อเพื่อบริโภคเองเหมือนกับB2C
B2C (business to consumer)
ธุรกิจ B2C ขายสินค้าและบริการให้กับลูกค้าเพื่อการใช้งานส่วนตัว ซึ่งอาจรวมถึงการล่องเรือเสื้อผ้ารถยนต์บริการจัดสวนและอื่น ๆ อีกมากมาย
ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างช่องทางการตลาด B2C และ B2B:
- ราคา: B2C มูลค่าการสั่งซื้อเฉลี่ยจะน้อยกว่าใน B2B สำหรับธุรกิจB2B อาจมีลูกค้าเพียงไม่กี่ราย ถึงแม้จะมีจำนวนลูกค้าขั้นต่ำ แต่ก็สามารถสร้างรายได้นับล้านได้ แต่โครงสร้างการกำหนดราคามีความซับซ้อนกว่าใน B2C แม้ว่าการซื้อแบบ B2B จะมีจำนวนมาก แต่โดยปกติราคาสามารถต่อรองได้ ผู้ซื้อจะได้รับราคาที่แตกต่างกันตามข้อตกลง
- การตัดสินใจ : การซื้อของ B2C จะไม่เกิดขึ้นจนกว่าผู้ซื้อจะรู้สึกว่าจำเป็นต้องซื้อสินค้าหรือบริการบางอย่าง
- กลุ่มลูกค้า : B2C มีกลุ่มที่แน่นอน ตัวอย่างเช่นผู้เล่นกีฬาสามารถเป็นกลุ่มเป้าหมายของร้านค้าปลีกรองเท้ากีฬา เป็นกลุ่มเป้าหมายที่ค่อนข้างใหญ่และมีโอกาสซื้อสูงในทางตรงกันข้ามอีคอมเมิร์ซแบบB2B มีธุรกิจประเภทใดประเภทหนึ่งเป็นเป้าหมาย
ใครชอบบทความธุรกิจแบบนี้อย่าลืมกดไลก์กดแชร์ และคอมเมนต์เรื่องที่อยากรู้กันไว้ได้นะคะ
อ้างอิง eswap, disruptiveadvertising
#JinnyMarketing#JinnyMarketingBUSINESS#การตลาดออนไลน์ #กลยุทธ์การตลาด #DigitalMarketing #DigitalStrategy #SocialMedia #Infographic #B2B #B2C
……………………………..
ช่องทางติดตาม
IG : https://www.instagram.com/jinnymarketing/
Twitter : https://twitter.com/JinnyMarketing
Fan page : https://www.facebook.com/jinnymarketing/
Messenger : m.me//jinnymarketing/
Youtube : Youtube : https://bit.ly/3alC9VB